ถือเป็นข่าวดีๆของวงการมวยเสื้อกล้ามไทย ที่ไอโอซี หรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ไว้วางใจ เลือก 2 เชิ้ตขาวชาวไทย “รศ.ดร.ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์” และ “กานต์ นักลำ” กรรมการระดับ 3 ดาว ไปทำหน้าที่ในการแข่งขันมวยสากลกีฬาโอลิมปิกรอบคัดเลือก ทวีปอเมริกา วันที่ 8-17 พ.ค. ที่อาร์เจนตินา และทวีปยุโรปฝรั่งเศส 4-8 มิ.ย.64
โดย “อ.เค้ก” รศ.ดร.ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ จะไปในฐานะผู้ประเมินกรรมการหรือผู้ที่พิจารณาคัดเลือกผู้ตัดสินไปทำหน้าที่ในการแข่งขันมวยสากลในกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ “อ.กานต์ นักลำ” จะร่วมตัดสินในรอบคัดเลือกทั้ง 2 ทวีป
ซึ่งการได้ไปทำหน้าที่ครั้งนี้เท่ากับเป็นการสร้างโอกาสให้กับกรรมการจากไทย โดยเฉพาะ “อ.กานต์ นักลำ” หากในการทำหน้าที่ครั้งนี้สมบูรณ์แบบตัดสินผิดพลาดน้อย ก็มีโอกาสได้ไปทำหน้าที่ต่อในโอลิมปิกเกมส์ 2020 หรืออาจจะเป็นอีกหลายโอลิมปิกเกมส์
ในส่วนของ “อ.เค้ก” คงไม่ต้องพูดถึงเพราะการเดินทางไปหนนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็เคยไปทำหน้าที่ลักษณะเดียวกันในการคัดเลกทวีปอื่นก่อนที่จะเกิดโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก
รวมถึงเคยผ่านการทำหน้าที่ผู้ชี้ขาด/ผู้ตัดสิน กีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 27 ที่ซิดนีย์ ปี 2000 ที่ “วิจารณ์ พลฤทธิ์” ได้เหรียญทอง รวมถึงทำหน้าที่ (อาร์/เจ) มวยสากลชิงแชมป์โลกที่สหรัฐฯ และเป็นอดีตรองเลขาธิการสมาคมมวยฯ สมัย “บิ๊กเหวียง” พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นนายกสมาคมฯ คาบเกี่ยวมาถึงสมัยที่ “บิ๊กเภา” พล.อ.สำเภา เป็นนายกสมาคมฯ
ที่พิเศษกว่านั้นคือการไปทำหน้าที่ครั้งนี้ของ อ.เค้กในฐานะผู้ประเมินและสังเกตการณ์นั้นหมายถึงผู้ที่พิจารณากรรมการที่มีความเหมาะสม นั้นหมายถึงทำให้กรรมการทุกคนอยากรู้จักและให้ความคุ้นเคยกับ อ.เค้ก เพื่อสร้างโอกาสให้ไปโอลิมปิกเกมส์
ที่เป็นประโยชน์สำหรับนักกีฬาไทยคือเราจะได้รู้ถึงหลักการให้คะแนนของกรรมการว่าชกอย่างไรถึงจะได้คะแนน และชกแบบไหนถึงจะฟาวล์
คงไม่ต้องบอกว่าชั่วโมงนี้ “รศ.ดร.ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์” จะมีเพาเวอร์มากขนาดไหน ที่แน่ๆ บรรดากรรมการจะให้ความเกรงใจและไม่กล้าตัดสินแบบมั่วๆเวลาที่นักชกไทยขึ้นเวที
การที่ทั้ง 2 ท่านได้รับโอกาสทองจากไอโอซีถือเป็นเรื่องดี เป็นการแสดงให้เห็นถึงการทำหน้าที่ของกรรมการไทย ที่สำคัญถือเป็นหน้าตาของสมาคมมวย ที่สามารถผลิตทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีคุณภาพจนได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้
นอกจากเรื่องฝีมือแล้วเหนือสิ่งอื่นใดต้องยกเครดิตให้กับ “คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล”คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ที่บารมีคับแก้วช่วยผลักดันจนทำให้กรรมการไทยได้รับโอกาสสำคัญในครั้งนี้
แม้เราจะได้โควตาที่แน่นอนมาแล้ว 4 คนที่ต้องบอกว่าเป็นนักชกที่มากประสบการณ์และคุณภาพคับแก้วมีโอกาสลุ้นทั้ง 4 คน
การที่ทุกสิ่งทุกอย่างเดินมาบรรจบกันทั้งเพาเวอร์บารมีของ “คุณหญิงปัทมา ผนึกกับ รศ.ดร.ไพบูลย์” ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าโตเกียวครั้งนี้มีโอกาสสูงที่เราจะได้เห็นเหรียญทองของมวยสากลคืนกลับมา
อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่กับวาสนาของนักมวยด้วย ต่อให้เก่งแค่ไหนแต่ไม่มีความเฮงความหวังก็น้อยเช่นกัน
แต่เหนือสิ่งอื่นใดกำลังใจของคนไทยทุกคนที่ส่งถึงนักกีฬาไทยจะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้ตามที่ตั้งใจไว้.