ตาม 13 แต้ม! แมนฯ ซิตี้ ลุ้นเหนื่อยบุกเฉือน เชฟฯ ยูไนเต็ด หวิว 1-0

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง “ดาบคู่” เชฟฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ ที่สนาม บรามอลล์ เลน เมื่อคืนวันอังคารที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา

เปิดเกมมา 7 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อนเลย โอลิเวอร์ นอร์วู้ด หนีตัวประกบกระชากขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดไปหน้าประตูที่มี จอห์น เฟล็ค ยืนรอโล่งๆ แต่ แฟร์นันดินโญ่ เตะเปลี่ยนทางได้ทัน

นาทีที่ 19 ทีมเยือนพลาดโอกาสเหลือเชื่อ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลริมเส้นก่อนเปิดยัดไปในเขตโทษให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ยิงจ่อๆ แต่ไปติดปลายมือของ ดีน เฮนเดอร์สัน นายด่านเจ้าถิ่น

นาทีที่ 25 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้อีกครั้ง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เปิดแฉลบบอลลเลยไปเสาไกลถึง แฟร์นันดินโญ่ เปิดย้อนไปหน้าประตูให้ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ตีลังกายิงติดตัว ดีน เฮนเดอร์สัน อีก

นาทีที่ 35 คริส บาแชม ไปหวด ริยาด มาห์เรซ ร่วงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าทันที แต่ กาเบรียล เชซุส กลับยิงไปโดน ดีน เฮนเดอร์สัน ปัดไว้ได้อีก ทำให้หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 60 ทีมเยือนได้โอกาสอีกครั้ง โรดรี้ เปิดจากแถวสองให้ กาเบรียล เชซุส วิ่งหนีตัวประกบไปโขกเปลี่ยนทางแต่ ดีน เฮนเดอร์สัน ยังพุ่งไปรับไว้ได้

นาทีที่ 73 หลังพยายามอยู่นาน แมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูออกนำ 1-0 จนได้ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดตัดแนวรับหมดบอลเลยไปถึง เซร์คิโอ อเกวโร่ ตัวสำรองที่ยิงโล่งๆ เข้าไป

จบเกม “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ บุกเฉือนเอาชนะ “ดาบคู่” เชฟฯ ยูไนเต็ด แบบลุ้นเหนื่อย 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญ พร้อมลดช่องว่างตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงเหลือ 13 คะแนน แต่แข่งมากกว่าอยู่ 2 นัด

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : ดีน เฮนเดอร์สัน – คริส บาแชม, จอห์น เอแกน, แจ็ค โอคอนเนลล์ – จอร์จ บัลด็อค, มูฮาเหม็ด เบซิช, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอห์น เฟล็ค, เอ็นดา สตีเว่นส์ – โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, บิลลี่ ชาร์ป

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, เอเมริค ลาปอร์ต, นิโกลัส โอตาเมนดี้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, โรดรี้ – ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง

ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

น้ำตาร่วง! จ่ามู แย้ม “เคน” อาจต้องพักยาวจนจบฤดูกาล

โฆเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม ​ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส เปิดเผยด้วยตัวเองแล้วว่า อาการบาดเจ็บของ แฮร์รี เคน ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะอาจทำให้ต้องพักยาวจนกระทั่งจบฤดูกาลเลยทีเดียว

ย้อนกลับไปในเกมที่ ทัพไก่เดือยทอง บุกไปพ่าย เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน ดาวยิงเจ้าของฉายาพายุเฮอริเคน เกิดอาการเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณกล้ามเนื้อแฮมสตริง (กล้ามเนื้อหลังต้นขา)

และหลังจากผ่านการตรวจเช็คอย่างละเอียดจากทีมแพทย์ ยืนยันว่า เคน ต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน ซึ่งทำให้ต้องพักรักษาตัวค่อนข้างนาน เพราะเป็นกล้ามเนื้อส่วนสำคัญของนักกีฬาทุกประเภท

“ข่าวอัพเดตของ แฮร์รี เคน ที่พอจะพูดได้ในตอนนี้ก็คือ อาการของเขาค่อนข้างรุ่นแรง แต่ด้วยความที่ไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะต้องพักนานขนาดไหน ถ้าคุณถามด้วยคำถามเดิม ๆ ผมก็ตอบได้แต่ประโยคเดิม ๆ เช่นกัน” จ่ามู กล่าว

“แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นเขาพักนานอยู่แล้ว บางทีอาจจะกลับมาเล่นได้อีกครั้งกลางเดือนเมษาฯ หรือไม่ก็สื้นเดือนเมษาฯ หรือไม่ก็ประมาณพฤษภาฯ แต่ถ้าร้ายแรงสุดคือฤดูกาลหน้าโน่นเลย”

ระดับเดียวกัน !? แม็คก้า ยก เฮนโด้ ทาบ เควิน เดอ บรอยน์

สตีฟ แม็คมานามาน อดีตสตาร์ ​ลิเวอร์พูล ได้ออกมาเทียบ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมคนปัจจุบันกับ เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

“เมื่อไหรก็ตามที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ยิงหรือแอสซิตส์พวกเขาก็จะได้รับการกล่าวถึงมากกว่าปกติเนื่องจากเป็นกองหลัง” แม็คก้า กล่าว

“แต่ในฐานะอดีตนักเตะที่ได้ดูเกมบนแสตนด์และเห็นภาพรวมก็กลับทำให้ผมรู้สึกปลื้มกับสิ่งที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทำ”

“เขาได้ก้าวขึ้นมาอยู่อีกระดับหลัง เยอร์เกน คล็อปป์ เข้ามา เขาได้เล่นหลายๆ ตำแหน่ง รวมถึงทางกราบขวาในเกมกับ ท็อตแนม และ เชลซี ที่มีการเปิดบอลคล้ายกับ เควิน เดอ บรอยน์ อยู่หน่อยๆ”

“ตอนนี้ผมไม่ได้บอกว่าเขาคือ เควิน เดอ บรอยน์ เลย แต่วิธีการที่เขาเล่นด้านขวาแลวเปิดบอลเข้ามาก็เป็นสิ่งที่ทำให้มีการเล่นหลากหลายขึ้นและเป็นอะไรที่ดีต่อตัวเองด้วย”

นี่ไงล่ะ ! คล็อปป์ เผยเป้าหมายจริง ๆ ที่สำคัญกว่าสถิติไร้พ่าย

เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ​ลิเวอร์พูล ยอมเปิดเผยแล้วว่านอกเหนือจากสถิติไร้พ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ใน พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้แล้ว มีสิ่งสำคัญอื่นที่ตนโฟกัสมากกว่า และอยากเห็นแข้งหงส์ทำได้ต่อเนื่องไปจนกระทั่งจบฤดูกาลด้วย

“หลายคนบอกว่า ลิเวอร์พูล กำลังพยายามสร้างสถิติไร้พ่ายขึ้นมาอย่างจริงในฤดูกาลนี้ แต่ผมบอกเลยว่าเราไม่ได้มองไกลขนาดนั้น ก็แค่อยากลงเล่นเกมตรงหน้าแล้วคว้าชัยชนะมาให้ได้เท่านั้นเอง” คล็อปป์ กล่าว

“สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ หลังแข่งเสร็จเราสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเอาชนะพร้อมกับครองเกมเหนือกว่าคู่แข่งชัดเจนในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกมรุกหรือเกมรับ”

“ยกตัวอย่างวันที่ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พวกเราสามารถคุมทุกอย่างเอาไว้เบ็ดเสร็จ ทุกจังหวะเข้าทำมีประสิทธิภาพสูง ตัดเกมบุกของคู่แข่งได้ทุกรูปแบบ นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากเห็นจากลูกทีมมากที่สุด ไม่ใช่ตัวเลขสถิติอะไรอย่างที่ใครเขาว่าเลยแม้แต่น้อย”

ใครก็หยุดไม่อยู่! ลิเวอร์พูล เปิดรังถลุง เอฟเวอร์ตัน ยับ 5-2 รั้งฝูงเหนียวแน่น

การเเข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ นัดกลางสัปดาห์ ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล รับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน

เจ้าถิ่นพัก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต ฟีร์มิโน นั่งสำรอง แล้วให้โอกาส ดิว็อค โอริกี รวมถึง เซอร์ดาน ชากิรี สตาร์ทตัวจริง โดยมี ซาดิโอ มาเน ยืนเป็นแนวรุกตัวกลาง

ส่วนทีมเยือนจัด 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุด นำมาโดย ริชาร์ลิซอน ที่เพิ่งขยายสัญญายาวกับทีม แดนหน้าวาง โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ยืนค้ำ

ผลปรากฎว่า เริ่มเกมมา 6 นาที ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 จากลูกสวนกลับ ซาดิโอ มาเน ควบขึ้นมาก่อนไหลทะลุช่องให้ ดิว็อก โอริกี หลุดเดี่ยวไปแตะหลบ จอร์แดน พิคฟอร์ด แล้วยิงโล่งๆ เข้าประตูไป

สกอร์มาเปลี่ยนเป็น 2-0 ในนาทีที่ 17 เมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วางทแยงจากฝั่งขวาออกซ้ายให้ มาเน ลากจี้มาหน้าเขตโทษแล้วไหลสั้นๆ ตามช่องเข้าเขตโทษให้ เซอร์ดาน ชากิรี สอดมาตวัดยิงด้วยเท้าซ้ายตามน้ำผ่าน พิคฟอร์ด เข้าไป

กระนั้น นาทีที่ 21 เอฟเวอร์ตัน ตีไข่แตก 1-2 จากจังหวะที่ เดยัน ลอฟเรน ไปพลาดล้มในจังหวะพยายามสกัดเลยกลายเป็น ไมเคิล คีน ได้ยิงเผาขนเข้าประตูไปเลย

นาทีที่ 31 หงส์แดงหนีห่าง 3-1 จากลูกที่ เดยัน ลอฟเรน วางยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้า โอริกี ตามไปเกี่ยวบอลลงอย่างเหนือชั้นก่อนแปกระแทกโด่งผ่าน พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย

นาทีที่ 45 ลิเวอร์พูล ทิ้ง 4-1 ซึ่งเป็นการโต้กลับจากเสียลูกเตะมุม เทรนท์ ลากหลุดขึ้นมาทางซ้าย ก่อนสุดท้ายจะไหลเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน ยิงเล่นทางด้วยเท้าซ้ายเสียบโคนเสาเข้าประตูไป

กระนั้น ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 3 ทอฟฟี่ไล่มา 2-4 เมื่อ แบร์นาร์ด เปิดจากกราบซ้ายเข้ากลาง ริชาร์ลิซอน ล้มตัวโหม่ง บอลไปโดนหัวไหล่เข้าประตูไป และหมด 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง นาทีที่ 90 หงส์แดงก็มาได้ลูกปิดกล่อง เมื่อ ฟีร์มีโน ลากเลื้อยไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายแล้วตบย้อนคืนมาให้ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม จับก่อนซัดด้วยขวาเสียบเสาไกลเข้าไป

จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ชนะไป 5-2 เก็บเพิ่มเป็น 43 คะแนน จาก 15 นัด ทิ้งรองจ่าฝูงอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ 8 คะแนน

พิจารณากันเอง!แฉภาพเซอร์โต้เถียงวู้ดเวิร์ด

สื่อผู้ดี จัดให้แบบไม่เกรงใจเมื่อแฉภาพขณะที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองซีอีโอ กำลังโต้เถียงกันอย่างรุนแรงในช่วงครึ่งแรกขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังตกเป็นรอง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อย่างหนัก ในเกมที่ทั้งสองทีมแบ่งแต้มกันไปแบบดราม่าเหลือเกิน
เดอะ มิร์เรอร์ สื่อดังในอังกฤษ แฉภาพขณะที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังโต้เถียงอย่างรุนแรงกับ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร “ผีแดง” ในช่วงครึ่งแรกที่สโมสรตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากตกเป็นรอง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สุดยอดผู้จัดการทีมชาวสกอตติช กับรองซีอีโอ ได้นั่งชมเกมสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด บนอัฒจันทร์ในสนามบรามอลล์ เลน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดย “เซอร์เฟอร์กี้” มักจะทำแบบนี้เป็นประจำในการเดินทางไปทั่วเมืองผู้ดีเพื่อดูและเป็นกำลังใจให้กับสโมสรอันเป็นที่รัก
สำหรับเกมเยือน “ดาบคู่” นั้น สาวก “เร้ด อาร์มี่” ทั่วโลกต้องช็อกตาตั้งเมื่อเห็นทีมรักโดนเจ้าบ้านเปิดฉากไล่ยำอย่างเมามันจนมีอาการเป๋ไปเป๋มา และสุดท้ายจากความผิดพลาดของ ฟิล โจนส์ ทำให้พวกเขาโดน จอห์น เฟล็ค ซัดประตูขึ้นนำ 1-0 จากนั้นในครึ่งหลัง ลีส์ มุสเซต บวกเพิ่มอีกลูก

อย่างไรก็ตาม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีการปรับหมากและสามารถยิงคืนสามประตูรวดจาก แบรนดอน วิลเลี่ยมส์, เมสัน กรีนวู้ด ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนตัวลงมาเล่นในครึ่งหลัง และ มาร์คัส แรชฟอร์ด โดยในช่วงเวลานั้น เฟอร์กูสัน และ วู้ดเวิร์ด ต่างแสดงสีแจ่มแช่มชื่น และภูมิใจในตัวนักเตะมากๆ

กระนั้นในช่วงนาทีสุดท้าย โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ย์ ยิงตีเสมอได้สำเร็จ แม้ตอนแรก อังเดร มาร์ริเนอร์ จะมีการเช็ควีเออาร์ แต่สุดท้ายก็ยืนยันให้เป็นประตู ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กำ 3 แต้มเอาไว้ในมือแต่กลายเป็นเหลือ 1 คะแนนอย่างเจ็บปวด

จากผลงานของ โซลชา ในเกมนี้และช่วงที่ผ่านมาทำให้เก้าอี้นายใหญ่ “น้าลูกอม” เริ่มสั่นคลอน เพราะมีรายงานอย่างต่อเนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะไล่ออกเพื่อเปิดทางให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ที่อยู่ในช่วงว่างงานหลังโดน สปอร์ส ปลดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เข้ามากุมบังเหียนแทน

แม็คเคเทียร์เร้าลิเวอร์พูลสอยสตาร์เชลซี

แม็คเคเทียร์เร้าลิเวอร์พูลสอยสตาร์เชลซี


เจสัน แม็คเคเทียร์ ตำนานกองกลางลิเวอร์พูล เร้าต้นสังกัดเก่าต้องคว้าตัว เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์เชิงรับชาวฝรั่งเศสจาก “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี มาร่วมทีมให้ได้ เชื่อนี่จะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่จะทำให้ทัพ “หงส์แดง” แข็งแกร่งเกินบรรยาย

ก็องเต้ พัฒนาฝีเท้า จนตอนนี้ได้รับการเชิดชูว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกในตำแหน่งกองกลางไปแล้ว โดยเฉพาะผลงานในการยิงประตูเกมลีกที่แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ โชว์ทักษะระดับเทพจนทำให้หลายๆ คนต้องทึ่งกับความสามารถของเจ้าตัว

แม็คเคเทียร์ เชื่อว่าหาก “เดอะ เร้ดส์” สามารถคว้าตัว ก็องเต้ มาร่วมทีมได้พวกเขาจะเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุด “บทบาทในตำแหน่งโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ มีการพัฒนามากยิ่งขึ้นในยุคนี้ และลิเวอร์พูล มีหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งนี้ที่เก่งมากๆ นั่นก็คือ ฟาบินโญ่ เขาใช้เวลาในการปรับตัวกับการเล่นที่แอนฟิลด์ แต่เขาทุ่มเทอย่างหนักในสนามซ้อม และตอนนี้เขาสามารถเติมเต็มในตำแหน่งนี้ได้อย่างลงตัว”

“เขาได้บอล และส่งให้ทันที ไม่ทำอะไรที่ไม่จำเป็น แม้เขาใช้เวลาในการเรียนรู้บทบาทนี้อีกสักพัก และนั่นเป็นสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ เขากับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เป็นสองนักเตะที่เก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีกที่เล่นในบทบาทนี้ แน่นอนว่า ก็องเต้ เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของเจอร์เก้น คล็อปป์” แม็คเคเทียร์ ทิ้งทาย

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://mblogi.com/

โดนอีก!ชากาอาจหมดอนาคตอาร์เซน่อล

โดนอีก!ชากาอาจหมดอนาคตอาร์เซน่อล


อูไน เอเมรี่ เทรนเนอร์ของ อาร์เซน่อล ตัดสินใจไม่ใส่ชื่อ กรานิต ชาคา กองกลางจอมปัญหา ออกจากชุดเปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้

มิดฟิลด์พันธ์ดุทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมตอนโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมเสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 แล้วถูกแฟนบอลโห่ ก่อนยั่วยุกลับด้วยการใช้มือป้องไปที่หูทั้งสองข้าง พร้อมกับสบถคำหยาบออกมา จากนั้นก็ถอดเสื้อออก และเดินเข้าไปในอุโมงค์แทนจะมานั่งอยู่ที่ซุ้มม้านั่งสำรอง

ตอนแรก ชาคา ไม่ยอมออกมาขอโทษแฟนบอล แต่ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้ยอมออกแถลงการณ์เพื่ออธิบายเหตุผลที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมใส่แฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” โดยยอมรับรู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก และพร้อมทุ่มเทเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ให้ทีมต่อไป

อย่างไรก็ตาม เอเมรี่ ยังคงไม่เรียก ชากา ลงเจอ วูล์ฟส์ เหมือนเกม คาราบาว คัพ ที่ออกไปเยือน ลิเวอร์พูล เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเผยในการแถลงข่าวว่า “ผมต้องการจบเรื่องนี้ เขาเสียใจ เขาขอโทษต่อแฟนบอลและทุกคน ตอนนี้เราต้องการมีสมาธิกับเกมในวันพรุ่งนี้”

โคตรซึ้ง!เวนเกอร์ปัดคุมทีมอังกฤษเพราะรักอาร์เซน่อล

โคตรซึ้ง!เวนเกอร์ปัดคุมทีมอังกฤษเพราะรักอาร์เซน่อล


อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือว่างงานคนดัง เปิดเผยว่าที่ผ่านมาตนปฏิเสธหลายข้อเสนอจากสโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กับ อาร์เซน่อล อยู่

เวนเกอร์ ตัดสินใจแยกทางกับ อาร์เซน่อล หลังจบฤดูกาล 2017-18 ภายหลังอยู่กับทีมมานานเป็นเวลาราว 22 ปี ซึ่งเขาก็ตกเป็นข่าวกับหลายต่อหลายทีม รวมถึงมีรายงานว่าอาจจะไปรับตำแหน่งกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ด้วย แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ได้ไปรับงานกับที่ไหนแบบเป็นทางการ

“ข้อที่สำคัญที่สุดคือผมเป็นคนของ อาร์เซน่อล และข้อที่สำคัญรองลงมาคือผมเป็นมืออาชีพ ผมไม่สามารถหยุดทำงานได้ ผมตัดสินใจที่จะบอกลา พรีเมียร์ลีก เพราะมีรัก อาร์เซน่อล มากๆ ที่จริงผมมีโอกาสที่จะไปทำงานในอังกฤษหลายครั้ง แต่ผมก็ปฏิเสธข้อเสนอไปทั้งหมด ผมไม่อยากบอกพวกคุณหรอกนะว่าเป็นทีมไหน เพราะทีมเหล่านั้นก็มีคนที่เป็นกุนซือให้อยู่แล้ว และมันคงจะไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขา (ที่จะออกมาบอกว่าเคยถูกทีมไหนทาบทามไปเป็นกุนซือ)” เวนเกอร์ ระบุ

เอาคืน!คล็อปป์โต้โดนแขวะมีโชคชนะเลสเตอร์

เอาคืน!คล็อปป์โต้โดนแขวะมีโชคชนะเลสเตอร์

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แสดงความเห็นตอบโต้เกี่ยวเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า “โชคดี” ในแมตช์เปิดบ้านเฉือน “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ที่สนามแอนฟิลด์ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เกมนี้ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายจะแบ่งแต้มกันไป แต่แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อ มาร์ค อัลไบรท์ตัน พลาดเสียบสกัด ซาดิโอ มาเน่ ล้มในเขตโทษ ทำให้ “เดอะ เร้ดส์” ได้จุดโทษและเป็น เจมส์ มิลเนอร์ ที่สวมหัวใจสิงห์ตะบันประตูให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 2-1 และชนะไปอย่างสุดมัน    หลังจบเกมบรรดาแฟนบอลพันธุ์แท้ และเฉพาะกิจของ เลสเตอร์ ต่างมองว่า “เดอะ เร้ดส์” พกดวงมาเต็มกระเป๋าถึงได้ 3 คะแนน สำหรับกรณีนี้ คล็อปป์ ระบุว่าตลอดทั้งเกมลูกทีมของตนเล่นได้เหนือกว่า และสมควรคว้าชัยชนะในแมตช์นี้แล้ว

“หากคุณยิงประตูในนาทีที่ 95 ด้วยจุดโทษทุกๆ คนมักจะพูดว่าโชคดี แต่ตลอดทั้งเกมเราสร้างโอกาสได้มากมาย เราเป็นทีมที่เหนือกว่า ดังนั้นผมมีความสุขกับสิ่งนี้ นี่เป็นอีกหนึ่งชัยชนะที่สำคัญมาก เพราะเกมนี้เป็นอะไรที่ยากลำบาก และนักเตะลิเวอร์พูลต้องเจอกับเรื่องสุดหินมากแค่ไหน”

“ผมคิดว่า เลสเตอร์ คงจะจบฤดูกาลในอันดับท็อปโฟร์ และจากนั้นพวกเขาจะเห็นว่ามันแตกต่างมากแค่ไหนในการต้องลงเล่นวันพุธ, เสาร์, พุธ, เสาร์ คุณภาพของพวกเขาดีเยี่ยม และเราทุกคนรู้จัก เบรนแดน (ร็อดเจอร์ส) ว่าเป็นผู้จัดการทีมที่เก่งมากๆ และสิ่งที่เขาเคยทำร่วมกับพวกเขา” คล็อปป์ ระบุ