ในเกมที่เสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาดังพอๆกับเสียงที่โหวกเหวกจากข้างสนามก็เป็นอีกเกมที่โชว์ถึงปรัชญาในการทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เขาเริ่มตอกตะปูตัวแรกด้วยการเน้นความแข็งแกร่งของเกมรับเอาไว้ก่อนซึ่งที่ผ่านมาเกือบปีเต็มก็สะท้อนชัดเจนถึงพัฒนาการ
จากทีมที่เสียง่ายในยุคอูไน เอเมรี่ก็ดูเหนียวแน่นขึ้นทันตาทั้งมีสถิติที่โดนคู่ต่อสู้สร้างโอกาสลุ้นยิงน้อยลง, มีคลีนชีตเพิ่มขึ้นและแน่นอนพวกเขาเสียประตูลดลงโดยซีซั่นนี้ก็ยังเป็นทีมที่เสียน้อยที่สุดของลีกอีกต่างหาก(พวกเขาเยือนมาแล้วทั้งแอนฟิลด์, เอติฮัดและล่าสุดก็โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด)
มันอาจมีบางอย่างที่ทำให้บรรดากูนเนอร์สอึดอัดบ้างโดยเฉพาะจังหวะเซตเกมเข้าทำทว่าอย่าลืมปัญหาใหญ่ที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยอาร์แซน เวนเกอร์แล้วของพวกคุณคืออะไร?
ไม่ใช่…เกมรับงั้นหรือ
เมื่อวันอาทิตย์ก็แทบไม่ได้เปิดโอกาสให้เกมรุกแมนฯยูไนเต็ดได้เจาะเข้าทำตามที่ถนัด พื้นที่ด้านหลังระหว่างคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับแบร์นด์ เลโน่ก็โดนปิดให้เหลือน้อยที่สุด
ใช่-เมื่อทำให้มาร์คัส แรชฟอร์ดหรือเมสัน กรีนวู้ดได้บอลแล้วต้องคืนหลังรวมถึงผ่านบอลออกข้างอย่างเดียวก็เท่ากับลดความอันตรายที่จะเสียประตูไปเกินครึ่งแล้ว
กระนั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังไม่ได้ว่ามันต้องมีเกมแบบนี้ คุณมีจุดเด่นอะไรอีกฝ่ายก็ต้องศึกษาวีดีโอหาทางแก้ลำมาแต่ปัญหาที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาประสบมาตลอดในวันที่น่าอึดอัดเช่นนี้อยู่ตรงพอตัวรุกกระดิกไม่ออกและพอบรูโน่ เฟอร์นานเดส ถูกตัดออกไปจากเกม(วันนี้อาร์เตต้าสั่งให้โมฮาเม็ด เอลเนนี่ย์ตามประกบหายใจรดต้นคอจนโดนเปลี่ยนตัวออกกลางครึ่งหลัง)
เกมนี้ผีแดงเลือกวางสูตรไดมอนด์4-1-2-1-2มาสู้ สูตรนี้จะเอื้อให้ทีมใดก็ตามที่มีแผงมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องคือมีนักเตะที่เด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ มีตัวบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ที่พาบอลตะบึงไปข้างหน้าได้ยอดเยี่ยม โอเค-ด้วยผู้เล่นที่โซลชามีก็พอจะหยิบใช้สูตรนี้มาได้
อย่างไรก็ตามข้อเสียของสูตรนี้อยู่ตรงตัวริมเส้นด้านข้างจะหายไปดังนั้นความหวังทั้งหมดต้องโยนให้ผู้เล่นฟูลแบ็กสองข้างเข้าโจมตี นึกออกใช่ไหมว่าทั้งอารอน แวน-บิสซาก้ากับลุค ชอว์สอบไม่ผ่านตรงนี้ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้พวกเขาเจาะยังไงก็ไม่เข้า
นับจากซีซั่นที่แล้วมาแบ็กสองฝั่งของแมนฯยูไนเต็ดทำแอสซิตส์รวมกันได้เพียง 8 ครั้งซึ่งในซีซั่นนี้ยังไม่มีเลยสักครั้งรวมไปถึงลูกผ่านได้เสียก็น้อยมากค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5 ครั้งต่อเกม(นับเฉพาะในลีก)
ลองดูแบ็กสองข้างลิเวอร์พูลว่าทั้งเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์กับแอนดี้ โรเบิร์ตสันมีส่วนช่วยทีมมากแค่ไหนกันครับ? นับเฉพาะปีนี้ก็ทำรวมกัน 3 แอสซิตส์ไปแล้วซึ่งก็ยังไม่รวมถึงลูกที่ตะลุยไปข้างหน้าหรือผ่านบอลยาวอันมีส่วนกับการขึ้น
เกมจนได้ประตู ส่วนซีซั่นที่แล้วมีแอสซิตส์รวมกัน 25 ลูก!! ufabet
ฟุตบอลสมัยใหม่จำเป็นยิ่งที่ต้องอาศัยแบ็กสองข้างมาช่วยกับเกมรุก ไม่ใช่แต่หงส์แดงเท่านั้นทีมอย่างแมนฯซิตี้, เชลซีไปจนถึงแม้แต่เอฟเวอร์ตันก็ตามก็ได้เชมุส โคลแมนกับลูก้าส์ ดีญนี่แหละสอดมาช่วยสร้างโอกาส
ประตูชัยของอาร์เซนอลมาจากตรงไหน? ไม่ใช่การเติมเข้าเขตโทษของแบ็กขวาเอคตอร์ เบเยรินจนเรียกค่าโง่ของพอล ป็อกบาได้งั้นหรือ
ผมสังเกตข้อนี้มาตลอดถึงประสิทธิภาพของสองฟูลแบ็กผีแดง อย่างวาน-บิสซาก้าก็ดูสอบผ่านเฉพาะเกมรับแต่เกมรุกยังเป็นเครื่องหมายคำถามที่ทำให้เขาไม่สามารถสอดแทรกสู่ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ได้เต็มตัว
ส่วนทางซ้ายนั้นชอว์เองดูพื้นๆไปเลยเมื่อเทียบกับแบ็กซ้ายหลายคนในพรีเมียร์ลีก นี่เองจึงยิ่งเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าทำไมก่อนปิดตลาดทีมที่ได้ลงทุนไปกับอเล็กซ์ เตลลิส
พวกเขาอาจโชว์ผลงานเข้าตาในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกซึ่งนั่นก็มาจากสไตล์การเล่นต่างไป ทีมส่วนใหญ่ในภาคพื้นยุโรปจะมีเปิดพื้นที่ให้เยอะและไม่ค่อยเข้าเพรสเร็วอันต่างจากพรีเมียร์ลีก
ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ดูง่ายแต่มันมีความซับซ้อนในตัวสูง คุณไม่สามารถใช้วิธีการเดิมๆเพื่อหวังชัยชนะได้ทุกเกม บางเกมแท็กติกนี้อาจเวิร์กส่วนอีกบางเกมอาจล้มเหลว
อย่างไรก็ตามแมนฯยูไนเต็ดชุดนี้คงยากที่จะประสบความสำเร็จได้ถ้าแบ็กสองข้างไม่สามารถช่วยเหลือเกมรุกได้มากกว่านี้…ตอนนี้เอาแค่เปิดบอลจากด้านข้างให้ถึงเพื่อนในกรอบเขตโทษก่อน