ลิเวอร์พูลเตรียม เล็งดึงใครแทน”ไวจ์นัลดุม”

ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ สื่อท้องถิ่นของอังกฤษ ตีข่าว ลิเวอร์พูล ตัดสินใจแล้วว่า อีฟส์ บิสซูม่า มิดฟิลด์ ไบรท์ตันฯ จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่จะเอาเข้ามาเป็นตัวแทนของ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม แต่พวกเขาก็จะไม่ขายดาวเตะชาวดัตช์ในช่วงเดือนมกราคมนี้ ต่อให้จะเสี่ยงเสียเจ้าตัวแบบฟรีๆ เมื่อถึงกลางปีหน้าก็ตาม

เผื่อเสีย!เผยลิเวอร์พูลเล็งดึงใครแทนไวจ์นัลดุม

ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำหนดให้ อีฟส์ บิสซูม่า กองกลาง ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เป็นหนึ่งในคนที่พวกเขาจะพยายามคว้ามาร่วมทัพเพื่อให้เป็นตัวแทนของ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ตามรายงานของ ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ สื่อชื่อดังประจำย่านเมอร์ซี่ย์ไซด์

เผื่อเสีย!เผยลิเวอร์พูลเล็งดึงใครแทนไวจ์นัลดุม

ไวจ์นัลดุม ทำผลงานได้โดดเด่นจนกลายเป็นกำลังหลักคนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล แต่เขาก็จะหมดสัญญากับทีมในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าแล้ว และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีทีท่าเลยว่าจะมีการต่อสัญญากัน ทำให้อนาคตของเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยที่มีข่าวลือด้วยว่า บาร์เซโลน่า คิดที่จะดึงเขาไปร่วมทัพ

สำหรับ บิสซูม่า นั้น ย้ายมาจาก ลีลล์ มาอยู่กับ ไบรท์ตันฯ เมื่อช่วงปี 2018 และแข้งวัย 24 ปีก็ทำผลงานให้ ไบรท์ตันฯ ได้น่าประทับใจกับบทบาทการเป็นตัววิ่งไล่เล่นงานคู่แข่งในแผงกลาง โดย ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ เสริมว่ายังไงซะ ลิเวอร์พูล ก็จะไม่ขาย ไวจ์นัลดุม ในช่วงเดือนมกราคมนี้แน่ ต่อให้ดาวเตะชาวดัตช์จะไม่ต่อสัญญากับทีมจนทำให้ “หงส์แดง” เสี่ยงที่จะเสียเขาแบบฟรีๆ เมื่อถึงช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าก็ตาม

อดีตแข้งดังจวก “ซาลาห์” สมควรติดโควิด-19

อดีตแข้งดังชาวอียิปต์จวกแหลกไม่ไว้หน้า พร้อมชี้ว่า “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” สมควรแล้วที่ติดเชื้อโควิด-19 เพราะทำตัวประมาทจนเกินไป

โมฮาเหม็ด ซาลาห์

วันที่ 17 พ.ย.63 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถูกพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างเข้าแคมป์ทีมชาติอียิปต์ ซึ่งหลายฝ่ายสันนิษฐานว่า แข้งดังของทีมหงส์แดงอาจติดเชื้อมาจากงานแต่งของพี่ชาย เนื่องจากไม่สวมหน้ากากระหว่างอยู่ในงาน อีกทั้งยังไม่ใส่ใจกับการเว้นระยะห่างทางสังคมอีกด้วย

รวมถึงล่าสุด มิโด อดีตกองหน้าทีมชาติอียิปต์ ได้ออกมาพูดถึงแข้งรุ่นน้องร่วมชาติจากค่ายหงส์แดงว่า “ผมอาจจะถูกโจมตีก็ได้ หลังจากการแสดงความคิดเห็นครั้งนี้ แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมรับได้”

“โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำพลาดครั้งใหญ่ ที่ตัดสินใจไปร่วมงานแต่งของพี่ชาย ในไม่กี่วันก่อนที่จะลงสนามให้กับทีมชาติอียิปต์ เขาแสดงให้เห็นถึงความประมาทเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับการละเลยมาตรการป้องกันไวรัสโควิด และเขาก็ติดมันจนได้”

“ความประมาทของ ซาลาห์ ทำให้อียิปต์ต้องเสียผู้เล่นตัวหลักไปในช่วงเวลาที่สำคัญ แถมเขายังทำให้เพื่อนร่วมทีมตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยงอีกด้วย เขาไม่ควรไปร่วมงานนั้น เมื่อรู้ว่าผู้ร่วมงานมากถึง 800 คน และครึ่งหนึ่งในนั้นทั้งกอดและจูบเขาด้วย” มิโด กล่าวผ่าน Al-Nahar TV.

ลิเวอร์พูลเจ๋งกว่าแมนยู,อาร์เซน่อลชุดโหด

ลิเวอร์พูล ชุดซีซั่น 2019-20 มีผลงานเหนือกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดฤดูกาล 1998-99 กับ อาร์เซน่อล ชุดซีซั่น 2003-04 ทุกด้าน หลังผ่านไปแล้ว 25 นัด ไม่เว้นแม้กระทั่งจำนวนประตูที่ทำได้กับจำนวนประตูที่เสีย
ลิเวอร์พูล ชุดฤดูกาล 2019-20 มีผลงานหลังผ่าน 25 นัดของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดีกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดที่ได้ทริปเปิ้ลแชมป์เมื่อซีซั่น 1998-99 และ อาร์เซน่อล ชุดที่ได้แชมป์ลีกแบบไม่แพ้ใครเลยในฤดูกาล 2003-04 ทุกด้าน

ในซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล ชนะไปถึง 24 เกม จากการลงเล่น 25 นัด ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ทำให้พวกเขามีจำนวนเกมที่ชนะมากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดฤดูกาล 1998-99 กับ อาร์เซน่อล ชุดไร้พ่ายอยู่แล้ว รวมถึงมีแต้มโดยรวมมากกว่าด้วย

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ชุดที่กำลังจะคว้าแชมป์ลีกมาครองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ก็ยังทำประตูได้มากกว่า และเสียประตูน้อยกว่า 2 ทีมนั้นด้วย หลังจากพวกเขาทำไปแล้ว 60 ประตู มากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดซิว 3 แชมป์ กับ อาร์เซน่อล ชุดไร้พ่าย เป็นจำนวน 1 กับ 11 ลูก ตามลำดับ ส่วนจำนวนประตูที่เสียก็น้อยกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดฤดูกาล 1998-99 เป็นจำนวน 12 ลูก ขณะที่ อาร์เซน่อล ชุดไร้พ่ายก็ยังเสียประตูเยอะกว่า ลิเวอร์พูล ชุดนี้ 1 ลูก

ตารางเปรียบเทียบผลงานในลีกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 1998-99, อาร์เซน่อล ฤดูกาล 2003-04 และ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2019-20 หลังผ่านไปแล้ว 25 นัด

นี่ไงล่ะ ! คล็อปป์ เผยเป้าหมายจริง ๆ ที่สำคัญกว่าสถิติไร้พ่าย

เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ​ลิเวอร์พูล ยอมเปิดเผยแล้วว่านอกเหนือจากสถิติไร้พ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ใน พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้แล้ว มีสิ่งสำคัญอื่นที่ตนโฟกัสมากกว่า และอยากเห็นแข้งหงส์ทำได้ต่อเนื่องไปจนกระทั่งจบฤดูกาลด้วย

“หลายคนบอกว่า ลิเวอร์พูล กำลังพยายามสร้างสถิติไร้พ่ายขึ้นมาอย่างจริงในฤดูกาลนี้ แต่ผมบอกเลยว่าเราไม่ได้มองไกลขนาดนั้น ก็แค่อยากลงเล่นเกมตรงหน้าแล้วคว้าชัยชนะมาให้ได้เท่านั้นเอง” คล็อปป์ กล่าว

“สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ หลังแข่งเสร็จเราสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเอาชนะพร้อมกับครองเกมเหนือกว่าคู่แข่งชัดเจนในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกมรุกหรือเกมรับ”

“ยกตัวอย่างวันที่ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พวกเราสามารถคุมทุกอย่างเอาไว้เบ็ดเสร็จ ทุกจังหวะเข้าทำมีประสิทธิภาพสูง ตัดเกมบุกของคู่แข่งได้ทุกรูปแบบ นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากเห็นจากลูกทีมมากที่สุด ไม่ใช่ตัวเลขสถิติอะไรอย่างที่ใครเขาว่าเลยแม้แต่น้อย”

ใครก็หยุดไม่อยู่! ลิเวอร์พูล เปิดรังถลุง เอฟเวอร์ตัน ยับ 5-2 รั้งฝูงเหนียวแน่น

การเเข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ นัดกลางสัปดาห์ ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล รับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน

เจ้าถิ่นพัก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต ฟีร์มิโน นั่งสำรอง แล้วให้โอกาส ดิว็อค โอริกี รวมถึง เซอร์ดาน ชากิรี สตาร์ทตัวจริง โดยมี ซาดิโอ มาเน ยืนเป็นแนวรุกตัวกลาง

ส่วนทีมเยือนจัด 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุด นำมาโดย ริชาร์ลิซอน ที่เพิ่งขยายสัญญายาวกับทีม แดนหน้าวาง โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ยืนค้ำ

ผลปรากฎว่า เริ่มเกมมา 6 นาที ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 จากลูกสวนกลับ ซาดิโอ มาเน ควบขึ้นมาก่อนไหลทะลุช่องให้ ดิว็อก โอริกี หลุดเดี่ยวไปแตะหลบ จอร์แดน พิคฟอร์ด แล้วยิงโล่งๆ เข้าประตูไป

สกอร์มาเปลี่ยนเป็น 2-0 ในนาทีที่ 17 เมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วางทแยงจากฝั่งขวาออกซ้ายให้ มาเน ลากจี้มาหน้าเขตโทษแล้วไหลสั้นๆ ตามช่องเข้าเขตโทษให้ เซอร์ดาน ชากิรี สอดมาตวัดยิงด้วยเท้าซ้ายตามน้ำผ่าน พิคฟอร์ด เข้าไป

กระนั้น นาทีที่ 21 เอฟเวอร์ตัน ตีไข่แตก 1-2 จากจังหวะที่ เดยัน ลอฟเรน ไปพลาดล้มในจังหวะพยายามสกัดเลยกลายเป็น ไมเคิล คีน ได้ยิงเผาขนเข้าประตูไปเลย

นาทีที่ 31 หงส์แดงหนีห่าง 3-1 จากลูกที่ เดยัน ลอฟเรน วางยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้า โอริกี ตามไปเกี่ยวบอลลงอย่างเหนือชั้นก่อนแปกระแทกโด่งผ่าน พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย

นาทีที่ 45 ลิเวอร์พูล ทิ้ง 4-1 ซึ่งเป็นการโต้กลับจากเสียลูกเตะมุม เทรนท์ ลากหลุดขึ้นมาทางซ้าย ก่อนสุดท้ายจะไหลเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน ยิงเล่นทางด้วยเท้าซ้ายเสียบโคนเสาเข้าประตูไป

กระนั้น ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 3 ทอฟฟี่ไล่มา 2-4 เมื่อ แบร์นาร์ด เปิดจากกราบซ้ายเข้ากลาง ริชาร์ลิซอน ล้มตัวโหม่ง บอลไปโดนหัวไหล่เข้าประตูไป และหมด 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง นาทีที่ 90 หงส์แดงก็มาได้ลูกปิดกล่อง เมื่อ ฟีร์มีโน ลากเลื้อยไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายแล้วตบย้อนคืนมาให้ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม จับก่อนซัดด้วยขวาเสียบเสาไกลเข้าไป

จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ชนะไป 5-2 เก็บเพิ่มเป็น 43 คะแนน จาก 15 นัด ทิ้งรองจ่าฝูงอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ 8 คะแนน

แม็คเคเทียร์เร้าลิเวอร์พูลสอยสตาร์เชลซี

แม็คเคเทียร์เร้าลิเวอร์พูลสอยสตาร์เชลซี


เจสัน แม็คเคเทียร์ ตำนานกองกลางลิเวอร์พูล เร้าต้นสังกัดเก่าต้องคว้าตัว เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์เชิงรับชาวฝรั่งเศสจาก “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี มาร่วมทีมให้ได้ เชื่อนี่จะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่จะทำให้ทัพ “หงส์แดง” แข็งแกร่งเกินบรรยาย

ก็องเต้ พัฒนาฝีเท้า จนตอนนี้ได้รับการเชิดชูว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกในตำแหน่งกองกลางไปแล้ว โดยเฉพาะผลงานในการยิงประตูเกมลีกที่แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ โชว์ทักษะระดับเทพจนทำให้หลายๆ คนต้องทึ่งกับความสามารถของเจ้าตัว

แม็คเคเทียร์ เชื่อว่าหาก “เดอะ เร้ดส์” สามารถคว้าตัว ก็องเต้ มาร่วมทีมได้พวกเขาจะเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุด “บทบาทในตำแหน่งโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ มีการพัฒนามากยิ่งขึ้นในยุคนี้ และลิเวอร์พูล มีหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งนี้ที่เก่งมากๆ นั่นก็คือ ฟาบินโญ่ เขาใช้เวลาในการปรับตัวกับการเล่นที่แอนฟิลด์ แต่เขาทุ่มเทอย่างหนักในสนามซ้อม และตอนนี้เขาสามารถเติมเต็มในตำแหน่งนี้ได้อย่างลงตัว”

“เขาได้บอล และส่งให้ทันที ไม่ทำอะไรที่ไม่จำเป็น แม้เขาใช้เวลาในการเรียนรู้บทบาทนี้อีกสักพัก และนั่นเป็นสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ เขากับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เป็นสองนักเตะที่เก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีกที่เล่นในบทบาทนี้ แน่นอนว่า ก็องเต้ เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของเจอร์เก้น คล็อปป์” แม็คเคเทียร์ ทิ้งทาย

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://mblogi.com/

เอาคืน!คล็อปป์โต้โดนแขวะมีโชคชนะเลสเตอร์

เอาคืน!คล็อปป์โต้โดนแขวะมีโชคชนะเลสเตอร์

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แสดงความเห็นตอบโต้เกี่ยวเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า “โชคดี” ในแมตช์เปิดบ้านเฉือน “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ที่สนามแอนฟิลด์ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เกมนี้ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายจะแบ่งแต้มกันไป แต่แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อ มาร์ค อัลไบรท์ตัน พลาดเสียบสกัด ซาดิโอ มาเน่ ล้มในเขตโทษ ทำให้ “เดอะ เร้ดส์” ได้จุดโทษและเป็น เจมส์ มิลเนอร์ ที่สวมหัวใจสิงห์ตะบันประตูให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 2-1 และชนะไปอย่างสุดมัน    หลังจบเกมบรรดาแฟนบอลพันธุ์แท้ และเฉพาะกิจของ เลสเตอร์ ต่างมองว่า “เดอะ เร้ดส์” พกดวงมาเต็มกระเป๋าถึงได้ 3 คะแนน สำหรับกรณีนี้ คล็อปป์ ระบุว่าตลอดทั้งเกมลูกทีมของตนเล่นได้เหนือกว่า และสมควรคว้าชัยชนะในแมตช์นี้แล้ว

“หากคุณยิงประตูในนาทีที่ 95 ด้วยจุดโทษทุกๆ คนมักจะพูดว่าโชคดี แต่ตลอดทั้งเกมเราสร้างโอกาสได้มากมาย เราเป็นทีมที่เหนือกว่า ดังนั้นผมมีความสุขกับสิ่งนี้ นี่เป็นอีกหนึ่งชัยชนะที่สำคัญมาก เพราะเกมนี้เป็นอะไรที่ยากลำบาก และนักเตะลิเวอร์พูลต้องเจอกับเรื่องสุดหินมากแค่ไหน”

“ผมคิดว่า เลสเตอร์ คงจะจบฤดูกาลในอันดับท็อปโฟร์ และจากนั้นพวกเขาจะเห็นว่ามันแตกต่างมากแค่ไหนในการต้องลงเล่นวันพุธ, เสาร์, พุธ, เสาร์ คุณภาพของพวกเขาดีเยี่ยม และเราทุกคนรู้จัก เบรนแดน (ร็อดเจอร์ส) ว่าเป็นผู้จัดการทีมที่เก่งมากๆ และสิ่งที่เขาเคยทำร่วมกับพวกเขา” คล็อปป์ ระบุ

เป๊ปรับซิตี้เหนื่อยแน่ตามลิเวอร์พูล

เป๊ปรับซิตี้เหนื่อยแน่ตามลิเวอร์พูล


เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมชาวสแปนิชของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับตอนนี้ทัพ “เรือใบสีฟ้า” ต้องพยายามสู้อย่างหนักเพื่อโอกาสในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังเกมล่าสุดแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ 0-2 เกมลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง 8 คะแนนแล้ว

เกมที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เจ้าบ้านหมายมั่นปั้นมือว่าจะบดขยี้ “หมาป่า” ให้ดับแดดิ้น แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อผู้มาเยือนเล่นได้ตามแผนพร้อมกับได้ประตูในช่วง 10 นาทีสุดท้ายจาก อดาม่า ตราโอเร่ นาทีที่ 80 และ 94 ส่งผลให้ วูล์ฟส์ บุกเก็บ 3 คะแนนอย่างเหลือเชื่อ

จากผลการแข่งขันแบบนี้ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ตกต้องอยู่ในสถานการณ์หนักเพราะพวกเขาต้องตามหลัง “หงส์แดง” ถึง 8 คะแนน โดย กวาร์ดิโอล่า เผยว่าตอนนี้ลูกทีมของตนมีอาการประหม่า และยอมรับ ลิเวอร์พูล ได้เปรียบบานเบอะในการลุ้นแชมป์ฤดูกาล 2019/20

“แต้มห่างเยอะมาก พวกเขาไม่ได้ทำแต้มหลุดมือเลย แต่มันคงจะเป็นเรื่องดีกว่านี้สำหรับเราในการไม่คิดว่ามีทีมหนึ่งที่มีแต้มนำห่าง 8 คะแนน มันเป็นวันที่แย่มากๆ แต่บางครั้งมันก็เกิดขึ้นได้ เราเริ่มต้นได้ดี แต่หลังจากที่เราเสีย 2 ประตูจากสองสถานการณ์ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะป้องกัน เรารู้สึกประหม่ากันพอสมควร”

“เราเป็นทีมที่คุมเกมได้หมดในครึ่งหลัง แต่สุดท้ายเราเสียบอลในตำแหน่งที่ยากจะป้องกัน และพวกเขาก็เฉียบคมมากๆ ก่อนหน้านั้นเรายิงชนเสา และเรามีโอกาสพอสมควร แต่แนวทางที่เราเล่นมันไม่ค่อยดีนัก มันไม่ใช่วันที่ดีเอาซะเลย เราเล่นไม่ดีจริงๆ บางครั้งมันก็เกิดขึ้นได้”

“เราพูดเกี่ยวกับว่า -สู้ๆ ทุกคน ยังมีอีกหลายเกมให้ลงเน เราเคยทำได้แล้ว และเราจะทำแบบนั้นได้อีกครั้ง- เราแพ้ให้กับทีมที่ดีกว่าซึ่งมีการเล่นเป็นระบบดีเยี่ยม และสภาพร่างกายแข็งแกร่ง รวมทั้งเล่นลูกกลางอากาศได้ดี และมีจังหวะสวนกลับอย่างรวดเร็ว” กวาร์ดิโอล่า ระบุ

อันเชลอตติชูลิเวอร์พูลเก่งสุดในยุโรป

อันเชลอตติชูลิเวอร์พูลเก่งสุดในยุโรป


คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือชาวอิตาเลียนของ นาโปลี เชื่อว่า ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุโรปเวลานี้ โดยทัพ “อัซซูร์ร่า” มีคิวเปิดรัง สตาดิโอ ซาน เปาโล รับมือ “หงส์แดง” ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นัดแรก วันอังคารที่ 17 กันยายนนี้

ทั้งสองทีมเคยดวลกันมาแล้วในฤดูกาลที่แล้ว ในรอบแบ่งกลุ่ม โดย นาโปลี คว้าชัยด้วยสกอร์ 1-0 ที่บ้าน ก่อนออกไปแพ้ “หงส์แดง” ที่ แอนฟิลด์ 0-1 ซึ่งเป็นเกมที่ส่งให้ทีมของนายใหญ่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ และสุดท้ายคว้าแชมป์มาครองได้ในบันปลาย

“ลิเวอร์พูล พัฒนาขึ้นมาก เพราะจากความสำเร็จในฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เราต้องตระหนักพวกเขาอย่างหนัก ในทางกลับกัน เราเองก็พัฒนาขึ้นเยอะ เพราะเราได้มีการเสริมคุณภาพให้กับทีม มันจะเป็นเกมที่ต้องสู้กันอย่างหนักแน่นอน เพราะเรากำลังจะเจอกับทีมที่เจ๋งสุดในยุโรปเวลานี้ แต่เราก็หวังที่จะได้ผลการแข่งขันแบบเดียวกับในฤดูกาลที่แล้ว” ยอดกุนซือชาวอิตาเลียนวัย 60 ปี กล่าว

ย้ำชัด!คล็อปป์เผยอนาคตอีก3ปี

ย้ำชัด!คล็อปป์เผยอนาคตอีก3ปี


เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงกล่าวย้ำจุดยืนเดิมว่าตนจะวางมือจากการคุมทีมเมื่อหมดสัญญากุมบังเหียนยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ ในปี 2022

กุนซือเลือดด๊อยท์ช มีสัญญาอยู่ผูกมัดกับ “เดอะ เร้ดส์” อีก 3 ปี แต่ตอนนี้เจ้าตัวยังไม่มีแผนที่จะขยายสัญญาออกไป โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คล็อปป์ ออกมาพูดในเชิงหยอกว่าอาจจะวางมือในการกุมบังเหียนหลังหมดสัญญากับต้นสังกัด อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่การล้อเล่นๆ เพราะเจ้าตัวได้ออกมาย้ำอีกครั้งว่าพร้อมที่จะเกษียณตัวเองเพื่อเป็นการชาร์จพลังก่อนจะกลับมาลุยงานหนักอีกครั้ง

คล็อปป์ ซึ่งนำ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 6 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ยอมรับว่าแม้จะนำความสำเร็จสู่ถิ่นแอนฟิลด์ แต่เขายังต้องการที่จะพักอย่างน้อย 1 ปีเพื่อผ่อนคลายกับงานที่ตึงเครียด “ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น ตอนนี้ใครจะพูดว่าผมจะทำอะไรในอีก 3 ปีข้างหน้าได้ล่ะ ? ถ้าผมตัดสินใจว่าผมไม่สามารถไปต่อได้อีกแล้ว ผมก็จะพัก และในปีนั้นแน่นอนว่าผมต้องตัดสินใจ (ว่าอยากจะทำงานต่อไปอีกไหม)”

“ผมยังคงมีพลังเต็มเปี่ยม แต่ผมมีปัญหานึงนั่นก็คือผมเป็นคนที่ไม่พอดี ผมสามารถทำอะไรแบบทุ่มสุดตัว หรือไม่ทำอะไรเลย แต่ผมมีโอกาสที่จะกลับมามีพลังเต็มเปี่ยมยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง (หลังจากพักเบรก 1 ปี) และนั่นทำให้ผมทำงานในแนวทางที่ผมต้องการได้” อดีตกุนซือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ระบุ


สนับสนุนโดย: asia gaming